ขับขี่รถยนต์ให้ประหยัดน้ำมัน





การวางแผนการเดินทาง เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่หลาย ๆ คนอาจมองข้าม จะด้วยความเร่งรีบ หรือใด ๆ ก็ตาม แต่การวางแผนการเดินทางนี่เอง จะทำให้เราประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างมาก หมั่นตรวจสอบสภาพลมยางอย่างสม่ำเสมอ ให้พอเหมาะพอดีกับลักษณะกายภาพของรถในแต่วัน ว่าเราบรรทุกมากหรือน้อยอย่างไร และก่อนที่เราจะออกรถยนต์ทุกครั้ง ควรสตาร์ทเครื่องยนต์เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องให้ทำงานอยู่ในอุณหภูมิปกติ ที่เหมาะสม เพื่อเป็นการป้องกันการสึกหรอของเครื่องยนต์ ทั้งยังเป็นการประหยัดพลังงานในไปตัว 


ในขณะที่ขับขี่อยู่นั้น ไม่ควรวางเท้าไว้ที่แป้นเหยียบคลัตซ์ เพราะน้ำหนักเท้าอาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทั้งยังเป็นการสิ้นเปลืองผ้าคลัซต์ จะทำให้หมดเร็วกว่าปกติ ในส่วนของเรื่องความเร็วนั้น ควรขับขี่รถยนต์ด้วยความเร็วที่เหมาะสมกับรอบเครื่องยนต์ และควรรักษาความเร็วให้คงที่ตลอดระยะการเดินทางด้วย ส่วนนี้จะทำให้เราสามารถประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว ในขณะที่เราจะเบรกรถยนต์ ก็ไม่ควรเบรกอย่างกะทันหันอีกเช่นกัน เพราะทำให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ อีกทั้งยังเป็นการทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์สึกหรอเร็วกว่าปกติอีกด้วย





น้ำมันถือว่าเป็นอัญมณีอันล้ำค่าอีกประเภทหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้ให้กับคนครอบครอง ในทางกลับกันยังเป็นอาวุธที่ทิ่มแทงผู้ใช้รถอย่างเราๆ  ด้วยที่ราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลดบ้างเป็นบางครั้ง ซึ่งราคาจะขึ้นจะลงคุณไม่ใช่คนที่จะกำหนดได้ ต้องไปเป็นกลไกทางาการตลาดเท่านั้นซึ่งคนทั่วไปไม่ได้เข้าใจ  แต่สิ่งเดียวที่คุณทำได้ คือ วิธีการขับขี่รถยนต์ให้ประหยัดนั้นเอง มีวิธีดังนี้ 

  • เส้นทาง  ควรมีการเช็ดเส้นทางให้ดีเสียก่อน ก่อนการออกเดินทาง เพื่อจะที่คุณจะได้ไม่อ้อมให้ทั้งเวลาและน้ำมัน 
  • ลมยาง อีกส่วนหนึ่งที่จะช่วยประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างดี เพราะ หากปล่อยให้ลมยางอ่อนจนเกิดไปจะทำให้รถยนต์ของคุณต้องใช้กำลังมากขึ้นเพื่อขับเคลื่อนไปข้างหน้า ควรเติมให้พอดีอยู่เสมอ
  • เช็ดระบบแอร์อยู่เสมอ ดูการทำงานว่ามีอาการอ่อนลงหรือไม่ เพราะ ถ้าอ่อนลงคอมเพรซเซอร์แอร์ต้องทำงานหนักส่งผลการเปลื้องน้ำมันได้
  • ทำความสะอาดไส้กรองอยู่เสมอ 
  • ไม่ควรเร่งขณะรถยนต์ของคุณอยู่นิ่งๆ
  • การออกรถต้องไม่กระชากหากไม่จำเป็น 
  • ขณะขับขี่ควรใช้ความเร็วแบบสม่ำเสมอ ไม่ควรเร่ง หรือ เบรกแบบไม่มีเหตุผล 
  • ไม่ขับรถเร็วจนเกินไปหากไม่จำเป็น การประหยัดน้ำมันความเร็วจะอยู่ที่ 80-100 กม./ซม. 
  • หากรถยนต์คู่ใจของคุณเป็นเกียร์ธรรมดาไม่ควรเหยียบคลัทซ์ทิ้งไว้ หากไม่ได้ต้องการจะเปลี่ยนเกียร์
  • ดูแลเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ เช่น เช็ดไส้กรอง เช็ดน้ำมันหล่อลื่น เช็ดระบบระบายความร้อน  เช็ดหัวเทียมว่าเชื่อมสภาพหรือไม่

การประหยัดน้ำมันจะขึ้นอยู่รถแต่ละรุ่น แต่ละคัน ด้วย ลองเอาวิธีเหล่าไปใช้กันได้เลย