สิ่งสำคัญในการที่จะช่วยชะรอความเร็วของรถยนต์ที่เราขับขี่นั้นคือ เบรก เมื่อมีการใช้งานที่บ่อย จะทำให้ระบบเบรกเกิดการสึกหล่อได้ หากผู้ขับขี่ละเลยการตรวจเช็คละซ่อมบำรุงระบบเบรก จะส่งผลต่อการขับขี่ของผู้ขับขี่ ทำให้การชะรอหรือการหยุดรถนั้นได้ไม่ดีมากนัก อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่ได้ ดังนั้นผู้ขับขี่รถยนต์ควรมีการตรวจเช็คและหมั่นบำรุงรักษาระบบเบรกให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
ข้อปฏิบัติดังต่อไปนี้
- การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรก ควรทำการหมั่นตรวจสอบและสังเกตว่ามีรอยรั่วหรือรอยร้าวต่างๆ ทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
- การเปลี่ยนผ้าเบรก ผ้าเบรกเป็นส่วนที่สึกหรอเร็วกว่าส่วนอื่นๆ ยิ่งใช้งานบ่อยเท่าไหร่ก็ยิ่งสึกหรอเร็วมากขึ้นเท่านั้น ควรหมั่นตรวจเช็คอยู่บ่อยๆ หากผ้าเบรกอยู่ในระยะที่ต่ำว่า 30% จะถือว่าไม่ปลอดภัยต่อผู้ขับขี่ ควรทำการเปลี่ยนผ้าเบรกทันที
- การเปลี่ยนจานเบรก เพราะบางครั้งการปล่อยให้ผ้าเบรกหมด จะทำให้จานเบรกเป็นรอย การขับรถลุยน้ำขณะที่จานเบรกร้อน จะทำให้จานเบรกคด หรือบิดตัว ทำให้สิทธิภาพในการเบรกลดลง ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่ได้
- การทำความสะอาดจานเบรก หากต้องการทำความสะอาดจานเบรกที่มีเศษฝุ่น ดิน หรือหินที่ติดอยู่ ควรใช้น้ำยาเฉพาะที่ใช้ทำความสะอาดจานเบรก เพราะถ้าหากใช้น้ำยาอื่นมาทำความสะอาดอาจจะทำให้จานเบรกเป็นรอยได้
- เปลี่ยนชุดซ่อมเบรก ควรการเปลี่ยนชุดซ่อม เช่น ลูกยางแม่ปั้มเบรก ลูกยางลูกสูบเบรก และยางกันฝุ่น อย่างน้อย 2-3 ปีต่อ 1 ครั้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบเบรกให้มีมากยิ่งขึ้น
เราต้องหมั่นตรวตสอบระดับน้ำมันเบรกอยู่เสมอ โดยจะมีขีดกำหนดไว้ให้อยู่แล้ว เราก็เพียงหมั่นเช็ค หมั่นดู หมั่นตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเท่านั้นเอง เราควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกทุก ๆ 1 ปี หรือทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร เราควรเลือกใช้น้ำมันเบรกตามการใช้งานรถของเราเอง คือการขับขี่รถ หากเราเป็นผู้ใช้รถที่มักจะขับรถเร็ว ก็ควรใช้น้ำมันเบรกที่มีประสิทธิภาพที่สูงตามไปด้วย น้ำมันเบรกมีหลากหลายชนิดให้เราเลือกใช้งานให้เหมาะสมไปตามสภาพการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชอบขับรถเร็ว ผู้ที่มักจะใช้รถในตัวเมืองเป็นหลัก ผู้ที่ต้องขับรถในสภาพที่ต้องลุยน้ำอยู่เป็นประจำ ก็ควรเลือกใช้ให้เหมาะสม กับสภาพกาล เพื่อประสิทธิภาพของรถยนต์ของเรา
