การดูแลแบตเตอร์รี่





แบตเตอร์รี่รถยนต์มีหน้าที่ ป้อนกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ต่างๆในเครื่องยนต์ให้สามารถทำงานได้ ป้อนพลังงานให้อุปกรณ์ต่างๆ ในรถยนต์ เช่น วิทยุ และระบบไฟ แบตเตอร์รี่รถยนต์มีอยู่สองประเภทคือ
  • แบตเตอร์รี่แบบเปียก คือ เป็นแบตเตอร์รี่ต้องต้องเติมน้ำกลั่น มีราคาถูก และมีอายุการใช้งานประมาณ 1.5-2 ปี
  • แบตเตอร์รี่แบบแห้ง คือ ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น มีความทนทานกว่า มีราคาแพงกว่าแบตเตอร์รี่แบบเปียก และมีอายุการใช้งานประมาณ 5-10 ปี แบตเตอร์รี่แบบแห้งนี้ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นเหมือนแบตเตอร์รี่แบบเปียก


การเลือกใช้แบตเตอร์รี่ไม่ว่าจะเป็นแบบเปียกหรือแบบแห้งก็ควรหมั่นตรวจเช็คดูแลรักษาแบตเตอร์รี่ โดยมีข้อปฏิบัติดังนี้
  • แบตเตอร์รี่แบบเปียก ควรหมั่นตรวจเช็ค แลละเติมน้ำกลั่นอย่างน้องเดือนละ 1 ครั้ง ควรเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่พอดี ไม่ต่ำหรือสูงจนเกินไป ไม่ควรทิ้งให้แบตเตอร์รี่อยู่ในจุดที่ต่ำที่สุด เพราะจะทำให้น้ำกลั่นทั่วไม่ทั่วผ่านธาตุในแบตเตอร์รี่ ส่งผลให้แบตเตอร์รี่เสื่อมเร็ว
  • ตรวจสอบสภาพแบตเตอร์รี่อยู่เสมอ ดูแลขั้วแบตหากพบว่ามีคราบเกลือเกาะอยู่ให้รีบทำความสะอาด หากพบร้อยร้าวหรือร้อยแตกที่แบตเตอร์รี่ ควรรีบเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ทันที เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ น้ำกรดในแบตเตอร์รี่อาจจะรั่วออกมาทำให้อุปกรณ์ส่วนอื่นๆเสียหายได้ 
  • แบตเตอรี่แห้ง หากไม่มีการใช้รถยนต์เกิน 2 อาทิตย์ ให้ทำการถอดออกจากรถ นำไปชาร์ทไฟให้เต็มแล้วเทน้ำยาทิ้งจากนั้นใช้น้ำกลั้นล้างแล้วเทออก คว่ำไว้ให้แห้ง หากต้องการจะใช้ให้เติมน้ำยาใหม่แล้วชาร์ทไฟให้เต็มแล้วจึงนำมาใช้ได้ ตามปกติ
  • เมื่อต้องการการเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ลูกใหม่ ให้ทำการชาร์ทไฟทิ้งไว้สัก 5-10 ชั่วโมงก่อนนำมาใช้ เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอร์รี่ได้นานยิ่งขึ้น

ในปัจจุบัน แบตเตอร์รี่แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ให้เราได้เลือกใช้ คือ แบตเตอร์รี่ชนิดแห้ง ซึ่งเราไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน และแบตเตอร์รี่ชนิดเปียก ซึ่งเราจำเป็นต้องเติมน้ำกลั่นเพื่อช่วยในการสร้างน้ำกรด แต่การเติมน้ำกลั่นก็ต้องมีวิธีการกันสักนิด คือไม่ควรเต็มน้ำกลั่นให้สูงหรือต่ำกว่าขีดระดับที่ได้กำหนดเอาไว้ หากเติมมากเกินไป ก็อาจทำให้น้ำกรดล้นออกมาได้ หรือหากน้ำกลั่นมีน้อยจนเกินไป ก็อาจทำให้แบตเตอร์รี่เสื่อมเร็วกว่าปกติได้เช่นกัน 


อีก 1 ข้อสังเกตคือ หากมีคราบตะกรันสีขาวเกิดขึ้นที่บริเวณขั้วแบตเตอร์รี่ ก็ให้ใช้น้ำร้อนราดไปบนขั้นแบตเตอร์รี่ได้เลยและให้ใช้แปรงขัดออกให้หมด กรณีแบบนี้จะทำให้ไฟเดินไม่สะดวก คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพแบตเตอร์รี่ของคุณได้เองด้วยวิธีง่าย ๆ นี่เอง





มาดูเรื่องอายุการใช้งานแบตเตอร์รี่กัน ใครว่าแบตเตอรี่รถยนต์มีอายุยืนยาวมากกว่า 2 ปี จงอย่าเชื่อ อันนี้ประสบการณ์ล้วนๆ ประสบมาแล้ว แบตเตอรี่รถยนต์เกิน 2 ปีได้ 2 สัปดาห์เอาแล้ว รถยนต์เริ่มสตาร์ทติดยาก บางครั้งก็สตาร์ทไม่ติดเลย ขับรถตอนกลางคืนไฟรถยนต์ก็ไม่ค่อยสว่าง การเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้ารถยนต์ก็แปลกๆ อืดๆ ช้าๆ ผิดปกติ ในใจคิดว่ารถยนต์ยี่ห้อนี้ไม่ดีเลย เพิ่งซื้อมาได้แค่ 2 ปี แต่ทำไมทุกอย่างรวนไปหมด 


เนื่องจากรถยนต์ของผู้เขียนเป็นรถยนต์ระบบออโต้ตอนพบว่าสตาร์ทไม่ติดก็อาศัยชาร์ทกับแบตเตอรี่รถยนต์คันอื่น แถมรถยนต์เป็นรถออโต้ ต่อไฟตรงไม่ได้ คิดว่าน่าจะอยู่ได้อีกซักหน่อย พอเข้าสู่ปลายสัปดาห์แค่นั้น รถยนต์ตายเลย ตายตอน 5 ทุ่มครึ่ง ต้องโทรหาเพื่อนให้เอารถมาพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์อย่างเร่งด่วน วันรุ่งขึ้นวิ่งเข้าร้านเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ทันที ปรากฎว่าอาการต่างๆที่ผู้เขียนคิดว่ารถยนต์ยี่ห้อนี้ไม่ดีนั้น หมดไปในพริบตา ทุกอย่างที่เกิดอาการแย่ๆหายไปหมด กลับมาปกติ  ที่นี้เลยต้องเขียนติดแบตเตอรี่รถยนต์ไว้เลยว่าเปลี่ยนมาเมื่อวันที่เท่าไหร่ ประวัติศาสตร์จะได้ไม่ซ้ำรอยอีก