ตัวกรองอากาศในรถยนต์นั้นมีหน้าที่ ดักกรองอากาศ เศษหิน เศษดิน หรือเศษฝุ่นละออง สิ่งสกปรกที่ปะปนที่อยู่ในอากาศเอาไว้ ไม่ให้เข้าไปในเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์อากาศที่เข้าไปในเครื่องยนต์นั้นสะอาดไม่มีสิ่งสกปรกปะปนอยู่ ช่วยลดเสียงที่เกิดจากการดูดอากาศของเครื่องยนต์ ช่วยยืดอายุการใช้งานเของเครื่องยนต์ การดูแลและบำรุงรักษาหม้อกรองอากาศและไส้กรองอากาศมีข้อปฏิบัติดังนี้
- ควรเปลี่ยนไส้กรองอากาศทุกๆ 20,000 กิโลเมตร เนื่องจากไส้กรองอากาศมีหน้าที่ดักกรองสิ่งสกปรกนั้น จึงทำให้ไส้กรองมีสิ่งสกปกเกาะอยู่จำนวนมาก หรืออาจมีเศษหินติดอยู่ เศษหินอาจทำให้ไส้หม้อกรองอากาศชำรุด ทำให้ไส้กรองอากาศทำหน้าที่ได้ไม่ดี เศษฝุ่นที่อาจจะเข้าไปในเครื่องยนต์ก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนต์ตามมาอีกได้
- หมั่นตรวจเช็คและควรถอดไส้กรองอากาศมาทำความสะอาดทุกๆ 2,000-5,000 กิโลเมตร ช่วยลดการทำงานหนักของไส้กรองอากาศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของไส้กรองอากาศ
- การถอดไส้กรองอากาศมาทำความสะอาดเองนั้น เวลาถอดให้ระวังปลั๊กที่เสียบอยู่ที่ฝาหม้อกรองอากาศ อย่าดึง หรือกระชาก เพราะจะทำให้ปลั๊กที่ฝาหม้อกรองอากาศขาดได้
- หากต้องการทำความสะอาดหม้อกรองอากาศ ไม่ควรใช้ลมแรงเกินไปเพราะอาจจะเป่าไปโดนตัวเซนเซอร์ที่อยู่ตรงกลางท่ออากาศ ทำให้เซ็นเซอร์ขาด เป็นเหตุให้รถเสีย ดังนั้นถ้าไม่ชำนาญไม่ควรเป็นคนทำความสะอาดหม้อกรองอากาศเอง ควรให้ช่างที่ชำนาญการในด้านนี้ทำความสะอาดหม้อกรองอากาศให้จะดีที่สุด
