Mazda BT-50 PRO ปิ๊กอั๊พโฉมใหม่ด้วยเทคโนโลยีคอมมอนเรลไดเร็กอินเจ็กชั่นที่ถูกออกแบบใหม่ล่าสุด เพื่อช่วยเสริมสมรรถนะของเครื่องยนต์ให้เหนือกว่ารุ่นใดๆทั้งแรงม้าและแรงบิด ออกแบบด้วยคุณสมบัติ Flat Torque ช่วยให้รอบเครื่องยนต์ต่ำไปจนถึงรอบเครื่องยนต์ปานกลางสามารถตอบสนองอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกตัว การควบคุมความเร็วรถหรือแม้แต่บรรทุกน้ำหนักมาก
ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลใหม่ Di-THUNDER PRO สองขนาด คือ
- เครื่องยนต์ 3.2 ลิตร Di-THUNDER PRO 3.2 i5 ให้แรงม้าสูงสุด 200 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร
- เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร Di-THUNDER PRO 2.2 ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 375 นิวตัน-เมตร
ที่ทำงานร่วมกับเทอร์โบแปรผันใหม่ Variable-Nozzle Turbocharger และอินเตอร์คูลเลอร์ใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ถือว่าเป็นสองรุ่นที่ออกมาเพื่อยกระดับของปิกอัพสายพันธ์ใหม่ ให้แรง ดั่งสายฟ้า แต่ประหยัดน้ำมันได้อย่างไม่น่าเชื่อ และยังทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ซึ่งออกแบบคันเกียร์แบบ Short Shifter มีฟังก์ชั่นไฟเตือนการเปลี่ยนเกียร์หน้าปัด Up-shift indicator เพื่อช่วยเตือนให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ในเวลาที่เหมาะสม และลดการลากรอบเครื่องยนต์โดยไม่จำเป็น สไตล์สปอร์ตและมีอัตราทดเกียร์ในแต่ละเกียร์สัมพันธ์กันเป็นอย่างดี เสริมด้วยช่วงล่างอัจฉริยะใหม่ SUPER DE-S ทำให้การขับขี่ของคุณคล่องตัว มั่นคง ตอบสนองทุกการขับขี่ได้อย่างความนุ่มนวล มีระบบเบรค ABS 4 ล้อ (4W-ABS Antilock Braking System) ช่วยในการเข้าโค้ง ลดความเร็วและทรงตัวได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งยังมี Shift on the Fly Transfer Case ซึ่งควบคุมด้วยไฟฟ้าสามารถปรับเปลี่ยนระบบการขับเคลื่อนจากแบบ 2 ล้อ เป็น 4 ล้อ เพื่อให้เหมาะกับสภาพการใช้งานบนถนนที่แตกต่างกันได้ระหว่างการขับขี่คุณจึงไม่ต้องหยุดรถ
นอกจากเครื่องยนต์และช่วงล่างที่ถูกออกแบบมาอย่างใหม่เอี่ยมแล้ว รูปลักษณ์ภายนอกก็เป็นส่งที่ทาง Mazda ให้ความสำคัญ เพราะได้ฉีกทุกกฎการออกแบบรถปิกอัพเดิมๆ เพิ่มการผสมผสานแนวคิดแบบ “นากาเร่” Nagare คือความงามที่มีอยู่ในธรรมชาติให้รู้สึกสบายตาสร้างความโค้งมน ความโฉบเฉี่ยว และพริ้วไหวขณะขับขี่ ช่วยให้ Mazda BT-50 PRO เป็นเป้าสายตาชวนหลงใหลในดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งด้านในใช้แนวคิดแบบ Cockpit Design ให้รู้ว่ากำลังขับขี่รถสปอร์ตหรู แต่ก็ยังให้ความสำคัญกับพื้นที่ในการนั่งทั้งผู้ขับขี่เองและผู้โดยสาร ให้รู้สึกสบาย ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆได้ดียิ่งขึ้น เช่น จอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID (Multi-Info Display), เครื่องเสียงรองรับการเล่นไฟล์ MP3 และ WMA พร้อมช่อง USB / AUX เชื่อมต่อ iPod และ อุปกรณ์เครื่องเล่นเพลงพกพาอื่นๆ, ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่านสัญญาณ Bluetooth, จอ MFD (Multi-function Display) และแผงหน้าปัดและมาตรวัดความเร็วทรงกลมแบบไร้ขอบ (Hoodless Design)
มีให้เลือก 7 สี ได้แก่
1.สีขาว
2.สีฟ้า
3.สีเงิน
4.สีเทา
5.สีดำ
6.สีทอง
7.สีแดง
Mazda BT-50 PRO มีให้เลือก 2 แบบ คือ Freestyle Cab และ Double Cab ราคาเริ่มต้นที่ 594,000 บาท และสูงสุดที่รุ่น Mazda BT-50 PRO Double Cab DBL 4×4 3.2R ABS/DSC/Leather ราคาอยู่ที่ 993,000 บาท